วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ก่อนจะซื้อบาร์โหน ควรตรวจสอบราคาก่อนที่จะทำการซื้อ จะได้ไม่ผิดหวัง

ด้วย ก็ซื้อแล้วโยนลงน้าให้มัจฉาหลากหลายชนิดที่ลอยหัวแน่นขนัด ฝักใฝ่บริเวณหน้าศาลาผมเองพลอยเอากับเขาด้วยมันทั้งสนุกกับภูมิใจเมื่อเห็นสัตว์น้ำเข้ามาแย่งกันฮุบจนนัวเนีย เนื้อตัวหน้าตาของผู้สูงวัยคนนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นหนังตาสองข้างตี่ย้อยแทบจะติดกันใบหน้ารวมไปถึงคอกับแขน เป็นจํ้า เห็นแล้วเดาเอาว่าไม่โดนไฟ ก็ต้องเป็นน้ากรดแน่แท้ จะเป็นเพราะที่ดูน่าเกลียดหรือโชคไม่เข้าข้างสุดจะสันนิษฐานได้ จึงไม่ค่อยมีคนอุดหนุนแกผมเองยืนมองอยู่พักหนึ่งจึงเดินเข้าไปถาม“ขนมปังถุงละเท่าไหร่”

หญิงพิการเกือบทั่วร่างตอบไม่ชัด เนื่องจากปากคงถูกทำศัลยกรรมจนผิดรูป “สิบห้าค่ะ”จึงควักเงินจากกระเป๋ากางเกงยื่นส่ง ระหว่างโยนให้ปลา ก็คิดว่า คงต้องคุยกับแกถามไถ่ทำไมจึงพิการ เมื่อขนมปังหมดถุง จึงถอยหลังเข้าไปนั่งยังพื้นของศาลา หญิงผู้นั้นยังเดินร้องขายเสียงอู้อี้ แต่หาคนซื้อแทบไม่ได้ เร่เข้ามาจะผ่านหน้าไปอีก จึงยกมือเป็นว่าจะกั้นแล้วบอก“นี่แม่ค้าอยากคุยด้วยยอมเสียเวลาหน่อยได้ไหม”แกหยุดกึก หันเร็ว  บาร์โหนสำเร็จรูป จ้องหน้าคงสงสัย “จะเรื่องอะไรกัน”ผมส่ายตามองตามร่างกายอีกครั้ง คิดว่าไม่น่าเป็นแต่กำเนิด ต้องอุปัตเหตุหรืออะไรสักอย่าง จึงไม่อ้อมค้อมถามไปตรงๆ พร้อมซื้ที่หน้าและแขน“เป็นอะไรหรือครับเนีย”แกก้มมองแขนนิดก่อนตอบ

“ลูกไฟคลอกจ้ะ”
นั่นไงอย่างนึกไว้แล้วเชียวจึงเอ่ยต่อและตบพื้นศาลาสองสามครั้งเบาๆเชิญแก “นั่งก่อนสิ’’ หญิงผู้นั้นลังเลพอเป็นพิธีแล้วหย่อนก้นลง ห่างผมพอสมควร คงคิดไปเองกลัวถูกรังเกียจจึงว่า “เข้ามาใกล้ๆ ก็!ด้”  บาร์โหนติดผนัง หล่อนจึงเขยิบชิดอีกหน่อย เลยเริ่มป้อนคำ “บ้านอยู่ที'มี'หรือ’’ ผู้นั้นล่ายหน้ากับบอก “ไม่หรอก อยู่กรุงเทพฯ จ้ะ คุณละมาจากทีนั่นหรือเปล่า”ก็พยั'ก'หน้าตอ,บ1ไป “ใช่ชอบมาวัดนี้เป็นประจำ สองสามเดือนครั้ง’’ ได้ถามต่อ“ทำไมถึงมาอยู่แถวนี้ล่ะ แล้วอาศัยที่วัดหรือบ้าน”ได้รับคำตอบ “ขออาศัยกุฏิแม่ซีอยู่ด้านหลัง1วัดหลายปี'มาแล้ว’'หล่อนย้อนถาม “ไม่รังเกียจฉันหรือ”ผมหัวร่อ แล้วว่าไม่หรอก“อยากฟังเรื่องราวของคุณนะ เพราะเหตุใดจึงเป็นอย่างนี้เต็มใจจะเล่าให้ฟังไหม”ที่พูดนี่เพื่อจะวิเคราะห์ที่หล่อนพิการทั่วร่าง เพราะสร้างกรรมจากชาตินึหรือเมือตังแต่ครังปางก่อนหญิงขายอาหารปลารู้ภายหลังหล่อนชื่อ วันเพ็ญ จึงขอเรียกเพ็ญแล้วกันลันหน่อย บอก“ทำบาปกับแม่ยู่ให้กำเนิดและคนอื่นไว้มาก”ก็ซักไป เรื่องเป็นอย่างไงหรือ“ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวแม่จึงรักมากทำให้เอาแต่ใจ ” หล่อนเริ่ม“จำได้ตอนนั้นอายุสิบแปด  ติดตั้งบาร์โหน ออกเที่ยวกับเพื่อนตามห้างสรรพสินค้าดูคอนเสิร์ตครั้งละเป็นพัน เงินที่ขอ แม่ยู่,เขามาทั้งนั้น”ผมขัดจังหวะถาม “ขอโทษนะแม่มีอาชีพอะไรถึงมีเงินให้'คุณเที่ยวมากมายขนาดนั้น”


บาร์โหน

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ขั้นตอนการทำบาร์เหล็ก โดยผู้เชี่ยวชาญทางการออกแบบ

เมื่ออายุเต็ม 20 ปี ลูกสาวของคุณแดงก็ท้องกับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นลูกคนยากคนจน ที่คุณแดงเห็นว่าไม่คู่ควรกับหนูปักของตน'‘ลูกยังไม่จบมหาวิทยาลัย ลูกจะท้องโตได้ไง"คุณแดงโกรธจนแทบจะบีบคอลูกสาวคนเดียวให้ตายคามือแต่ก็จำใจขับรถพาลูกสาวไปคลินิกทำแท้งเถื่อนที่นอกเมือง ซึ่งขณะนั้นหนูปักตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว!หลังจากรักษาตัวจนแข็งแรงดี หนูปักก็ไปเรียนต่อด้งเดิม แต่เรียนได้อีกเทอมเดียวก็หนิออกจากบ้านไปทั้งๆ ที่จะเรียนจบอยู่แล้ว!คุณแดงนํ้าตาตกทุกวัน เพราะทั้งคิดถึงลูกสาวและทั้งชํ้าใจที่เลี้ยงลูกไม่ได้ดี คุณแดงไปดูแลร้านดอกไม้ที่อยู่ในโรงแรมชั้นหนึ่งด้วยตัวเอง แล้วก็เปิดร้านผ้าไหมอีกที่โรงแรมหนึ่งด้วยเพราะอยากทำงานมากๆ จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์หนักกับการคิดถึงลูก ซึ่งงานก็ช่วยได้พอสมควรหนูปักหายไปปีเดียวก็โทรกลับมา บาร์โหนสำเร็จรูป บอกว่าแม่ไม่ต้องห่วง หนูสบายดี หนูคิดถึงแม่นะ แล้วก็วางสายไปบางครั้งหายไปอีก 6 เดือนก็โทรมาแต่ไม่พูด สักครู่ก็วางสายเวลาผ่านไป 4 ปีหนูปักกลับมาหาแม่ในสภาพท้องแก่คราวนี้คุณแดงจำใจพาลูกไปฝากครรภ์และทำใจว่าจะต้องเลี้ยงหลานที่กำพร้าพ่อต่อไปหนูปักคลอดลูกสาวในขณะที่ธุรกิจของคุณแดงเริ่มมีปัญหาคุณแดงจ้างพี่เลี้ยงเด็กถึง 2 คนมาช่วยเลี้ยงหลาน อีก 5 เดือนต่อมาก็ต้องปิดร้านผ้าไหม ร้านดอกไม้ก็กิจการเริ่มทรุด ชีวิตมีเรื่องมีราววุ่นๆ ตลอด จะทำอะไรก็มีอุปสรรคปัญหาเสมอๆพอลูกครบ า ขวบหนูป็กก็หนีออกจากบ้าน บาร์โหนติดผนัง ไปอีกคราวนี้คุณแดงได้ข่าวจากเพื่อนว่าลูกสาวไปมีแพ่นฝรั่งอยู่ที่แอลเอ คุณแดงพยายามติดต่อเพื่อนให้ช่วยหาที่อยู่ของลูกสาวให้ได้คุณแดงต้องปิดร้านดอกไม้ และต้องขายรถเบนซ์เอาเงินใช้หนี้แบงก์ ตัวเองเปลี่ยนมา'ขับ'รถญี่ปุน และต้องทำตัวเป็นแม่ของเด็กผู้หญิงวัย 4 ขวบในขณะที่ตัวเองอายุ 48 แล้วปีต่อมาหนูปักกลับมาพร้อมกับแพ่นฝรั่งคนใหม่ หนูปักในวัย30 ปีดูสดใสและมีอารมณ์มั่นคงมากขึ้น เธอบอกกับแม่ว่า “หนูเจอรุ่นพีคนหนึ่งทื่อเมริกาค่ะแฝ เขาว่าถ้าเราทำแท้งน่ะ เจะบาปมากทั้งตัวหนูและแม่ด้วย มิน่าทำใมหนูถึงต้องไประหกระเหินตกระกำลำบากมาตลอด 10 ปีเต็มๆ แม่ไม่รู้หรอกว่าหนูไปเจอะเจออะไรมาบ้าง แม่เองก็จับทำอะไรเป็นพลาดหมดไมใช่หรือคะ พี่เขาแนะนำให้ทำบุญ หนูก็ตระเวนทำบุญอย่างหนัก ทั้งสังฆทานและไถ่ชีวิตโค-กระบือ ชื้อปลาซื้อหอยไปปล่อย หนูทำอยู่ 3 ปีเต็มๆ นะแม่ทุกอย่างถึงดีขึ้น ทำอะไรก็สำเร็จรารื่น ไม่มีอะไรมาปีดๆ กั้นๆ อีกเลย"คุณแดงลองทำอย่างที่ลูกสาวแนะนำ ทำบุญอย่างต่อเนื่องนาน 1 ปีชีวิตก็เริ่มสดใสขึ้น

ปีต่อมาคุณแดงก็ไปอยู่กับหนูบุกและแฟนทีอเมริกา บาร์โหนเพิ่มกล้าม ไปเปิดร้านอาหารไทยและร้านดอกไม้ มีชีวิตที่สุขสบายตามสมควร    และคุณแดงก็ยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดงานบุญที่วัดไทยในแอลเออยู่เสมอๆ ไม่เคยขาดนายจิตรเคยมีอาชีพช้บรถกระบะส่งงานไม้จากอำนาอหนึ่งไปสู่อีกอำเภอและอีกจังหวัดหนึ่ง    ครั้งหนึ่งเขาดื่มเหล้าก่อนจะไปส่งของที่น่าน นั่งดื่มเพลินจนเกือบตีหนึ่งจึงรีบออกรถเพื่อให้ถึงน่านตอนรุ่งเช้าพอดีด้วยความมึนเมาเล็กน้อย นายจิตรจึงขับรถเร็วมาก เด็กที่ติดรถมาด้วยก็เมาหลับไปแล้ว พอรถออกจากตัวจังหวัดไป!ด็ไม่นานก็ถึงทางแยกใหญ่ นายจิตรเห็นแล้วว้าเป็นสัญญาณไฟแดง แต่เห็นว้าถนนว่างอยู่จึงรีบเหยียบคันเร่งจนจมมิดแต่เมื่อฝ่าไฟแดงได้ก็เพิ่งเห็นมอเตอร!ชค์คันหนึ่งบึ่งมาทางขวามือ!นายจิตรเบรกไม่ทัน รถกระบะพุ่งเข้าชนรถมอเตอร์ไซด์อย่างจัง!รถมอเตอร์!ชด์กระเด็นลอยไ!]!กล รถกระบะขนไม้ก็เสียหลักพุ่งไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางจนพังยับเด็กหนุ่มที่ติดรถมาด้วยเสียชีวิตคาที่!นายจิตรไม่มืเวลาวิ่งไปดูรถมอเตอร!ชด์ เพราะจากที่พยายามมองดูในกระบะไกลออกไปหลายสิบเมตรก็พอจะเดาได้ว่าคงไม่รอดนายจิตรได้รับบาดเจ็บที่อกและเท้า    แต่ก็พยายามลืมความเจ็บแล้วเผ่นหนีไปโดยข้ามตัดทุ่งนากว้างไปออกยังอีกถนนหนึ่งแล้วโบกรถหนีกลับย้อนลงมา แล้วโบกรถต่อไปทางอีสานเขาอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์พบว่าคนขับรถมอเตอร์!ชค์นั้นเป็นเด็กอายุ า8 ปี ที่กำลังขับรถไปดูฟอที่ปวยหนักอยู่ที่ ขายบาร์โหนทุกชนิด โรงพยาบาลเด็กคนนั้นตายคาที่!นายจิตรหนีลงใต้เพราะกลัวถูกตามจับ เนื่องจากเถ้าแก่ของตนมืสำเนาบัตรประชาชนและรู้จักพ่อแม่ของตนด้วยเขาหนึ่!ปบวชอยู่ที่วัดปา แต่ทว่าคืนแล้วคืนเล่าที่ต้องสะดุ้งตื่นกลางดึก เพราะฝืนเห็นแต่วิญญาณของเด็กผู้ชายที่มาปรากฏในร่างชุ่มโชกเลือดบางคืนตื่นมายังเห็นวิญญาณเด็กผู้ชายยืนอยู่ที่ปลายเตียงด้วยชํ้า!นายจิตรบวชอยู่ 3 ปีก็สึกแล้วไปได้งานขับรถให้รีสอร์ตแห่ง หนึ่ง มีหน้าที่ขับรถรับส่งนักท่องเที่ยวจากโรงแรมและรีสอร์ต ทำงานอย่างมีความสุขนาน 4 ปีจนนายจิตรคิดว่าคงจะหมดกรรมหมดเวรเพราะได้บวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายแล้ววันหนึ่งนายใช้ให้นายจิตรไปทำธุระที่จังหวัดใกล้เคียง เขาออกรถประมาณเที่ยงคืนกว่าๆขณะขับรถไปคนเดียวก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเหตุการณ์ร้ายในอดีตแต่นายจิตรก็ปลอบใจตัวเองว่าตนขับรถไม่เร็ว โลหะทรานซิชันหมู่ 8 และไม่ได้ดื่มเหล้าด้วยแต่ขณะขับไปถึงทางโค้งแห่งหนึ่ง นายจิตรก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นรถมอเตอร์ไชค์คันหนึ่งวิ่งพุ่งเข้ามาหาอย่างเร็วนา ยจิตรจึงหักรถหลบไปทางขวาอ ย่าง เร็วทันที!รถกระแทกกับตีนเขาอย่างจัง!ที่ มาฟืนอีกทีที่โรงพยาบาลก็พบว่าตัวเองขาหักข้างหนึ่ง!แต่ถ้าเขาตัดสินใจหักหลบไปทางซ้ายก็ต้องตกหน้าผาตายแน่!รถสิบล้อที่ตามมาในระยะเวลาไล่เสี่ยกันบอกกับตำรวจว่าเห็นรถปีกอัพข้างหน้าหักเข้าชนเชิงเขาริมทางเอง! ซึ่งเขาก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน!ตำรวจทางหลวงเองก็ไม่เห็นร่องรอยรถคันใดในบริเวณนั้นอีกซึ่งถ้ามีการเฉี่ยวชนกันจริงก็ต้องมีร่องรอยอย่างแน่นอนแต่นายจิตรก็ไม่กล้าโต้เถียงใครๆ มากนัก เพราะเขารู้ตัวดี'ว่ารถมอเตอร์ไชค์ที่พุ่งเข้าชนเขานั้นคือใครนายจิตรเสียขาไปข้างหนึ่ง เขาขับรถไม่ได้อีก แต่เจ้านายก็ใจดีให้งานแผนกชักรีดผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนแก่เขา

บาร์โหนสนามเด็กเล่น

เราสามารถยับยั้งกิเลสในตนเองได้ ด้วยการปล่อยวาง ตอนที่ 1


                                 





มนุษย์ทุกคนเกิดมาไม่ว่ายากจนผู้ดีไพร่ ล้วนต้องกระทำบาปทุกคนเพียงแต่มากน้อยต่างกัน ที่เป็นดังนี้น่าจะมาจากกิเลสของความชั่วร้าย ไม'ใช้ชีวิตด้วยความพอเพียง ได้เท่านี้ก็ยากให้มากขึ้นจึงเกิดการทำสิ,งที่ไม,ถูกไม่ควรอาจโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม และที่สุดต้องชดใช้หนี้กรรมด้วยกันทั้งนั้นอย่างเช่นคุณยายมลฤดีวัยเจ็ดสิบต้นๆ ตาข้างซ้ายบอดเห็นแผลเป็นชัดเจน เป็นชาวอีสานแต่กำเนิดน่าจะมีความสุขในบั้นปลายของชีวิต เพราะมีทุกอย่างแล้วในการดำรงชีพ บ้าน รถ เงินในธนาคารหลายล้าน ถ้าไม่ทะเยอทะยานคงไม่ต้องไปอาศัยเพิงพักชายคลองใต้สะพาน กันแดดบังฝน แกเล่าว่าตั้งแต่เด็กไม่เคยลำบาก แม้พ่อแม่เป็นชาวนาแต่อยากให้ลูกสาวมีความรู้ ด้วยจนใจที่ไม่มีเงินพอจะส่งเสียเหมือนลูกเศรษฐีทั้งหลาย บาร์โหนติดผนัง จึงได้นำมลฤดีไปฝากเข้าโรงเรียนของฝรั่งที่เรียกกันว่า พวกแพร่แผ่ศาลนาในตัวเมืองตั้งแต่ชั้นอนุบาล ซึ่งผู้ให้ความอุปถัมภ์มีข้อแม้ว่าต้องเปลี่ยนจากศาสนาพุทธเป็นครสต์ส.กระเซ้าเพ็ชร

นายเปลี่ยน นางทุเรียนเนื้อเยื่อผู้เป็นบุพการีเห็นว่า ไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใดเพราะปรึกษากันแล้ว ทุกศาสนาล้วนสอนให้เป็นคนดีด้วยกันทั้งนั้น นอกจากได้เรียนฟรี ยังน่าจะเพิ่มทักษะทางด้านภาษาฝรั่ง และก็เป็นไปตามคาด ยายมลฤดีขณะนั้นยังเป็นนางสาวเรียนเก่งจบจนถึงขั้นปริญญาตรี ได้ออกมายึดอาชีพแม่พิมพ์ของชาติในกรุงเทพฯ ด้วยเธอแตกฉานด้านภาษา บาร์โหนราคา นอกจากทำงานประจำ ยังรับสอนหนังสือพิเศษในวันเสาร์อาทิตยํให้กับเด็กทั่วไปรายได้รวมแล้วตกเดือนละห้าหกหมื่นบ้านเกิดที่อยู่มาแต่เล็กแต่น้อย ครั้นรั่ารวยไม่เหยียบย่างกลับไปหาพ่อแม่ นอกเสียจากทั้งสองทนคิดถึงไม่ไหวจำต้องอาศัยนั่งรถประจำทางมาเยี่ยม กลับได้รับการต้อนรับจากลูกสาวไม่ค่อยเต็มใจนัก เพราะเธอไม่ต้องการให้คนรอบข้างเกำพืดเดิม ด้วยที่มีนิลัยทะเยอทะยาน ทำให้มลฤดีเลือกคบเฉพาะชนขั้นสูง หรือที่นิยมเรียกกัน พวกบรรดาไฮโซ และแน่เหลือเกินค่าใช้จ่ายย่อมต้องสูงจากการฟ้งเฟ้อ เสื้อผ้าที่สวมใส่ราคาแพงลิ่ว ยี่ห้อต้องของแบรนด์เนมทั้งนั้น รถที่เคยใช้อยู่ราคาไม่สมฐานะเปลี่ยนใหม่เป็นสองสามล้านขึ้น เมื่อรายได้กับรายจ่ายไม่สมดุล จึงต้องกู้เงินนอกระบบมาเสริมนานวันเข้าจึงเป็นหนี้มากมาย ทั้งที่ทำงานและบ้านจนหมดปัญญาหามาใช้ได้ทัน ในที่สุดเจ้าหนี้ตามรังควานทำให้เธอต้องหายหน้าจากโรงเรียนที่สอนโดยไม่ได้ลา โหนบาร์เพิ่มกล้าม ในที่สุดหลวงคงทนคอยไม่ไหวเลยคัดชื่อออกจากสารบบมลฤดีไม่หยุดแค่นั้น จึงหาทางด้วยการหลอกลวง จากผู้ปกครองที่นำลูกหลานมารับการสอนพิเศษ เนื่องจากเธอเประว้ติของท่านเหล่านี้ดี ใครมีฐานะความเป็นอยู่อย่างไร และด้วยหน้าตา รูปร่างที่เตะตาเพศตรงข้าม จึงมีไม่น้อยอยากสัมผัสใกล้ชิดกับมลฤดี และคุณระดม นักธุรกิจเล็กๆ แต่มีเงินไม่แพ้ระดับเศรษฐี พ่อม่ายลูกติดเป็นคนหนึ่งซึ่งพามาให้เธอสอนพิเศษ และพบกันหลายครั้งจากงานเลี้ยงต่างๆ ต้องชะตาในตัวเธอ กรอปกับอยากให้ลูกสาวซึ่งอายุเพิ่งเพียงสามขวบมีแม่อย่างเด็กอื่น จึงเพียรพยายามหาโอกาสบอกรกกบมลฤด

จนวันหนึ่งมีงานแต่งลูกสาวเพื่อนทั้งเขาและเธอ โหนบาร์ลดหน้าท้อง ได้รับเชิญไปในงานยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง เมื่อมีโอกาสนั่งโต๊ะเดียวกัน ระดมเอ่ยขึ้นก่อนอย่างสุภาพ“จะรังเกียจไหม งานเลิกแล้วอยากคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวที่ร้านอาหารสักแห่ง”

บาร์โหน